นิติบุคคลที่ให้บริการด้านการสอบบัญชี หรือด้านการทำบัญชี

1. การจดทะเบียนนิติบุคคลและแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันคือ

 

 

 

     นิติบุคคล ที่ให้บริการด้านการสอบบัญชี หรือด้านการทำบัญชี ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ต้องดำเนินการจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพบัญชี

   •  นิติบุคคลใดให้บริการการสอบบัญชี หรือการทำบัญชีอยู่แล้ว ก่อนวันที่พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ใช้บังคับ (วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2547) ให้ยื่นขอจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพบัญชี ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
   •  นิติบุคคลใดให้บริการการสอบบัญชี หรือการทำบัญชีหลังจากวันที่พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ใช้บังคับ (วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2547) ให้ยื่นขอจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพบัญชี ภายใน 30 วัน หลังจากการจดทะเบียน จัดตั้งนิติบุคคลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แล้วเสร็จ
   •  ในวันที่ยื่นจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพบัญชี นิติบุคคลต้องจัดให้มีหลักประกันเพื่อประกันความรับผิดต่อบุคคลที่สามประเภทหนึ่งประเภทใดรวมกันเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสามของทุน ณ วันที่ยื่นจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพบัญชี และแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันมาพร้อมกับการยื่นจดทะเบียนต่อสภาวิชาชีพบัญชี
2. หลักฐานการจดทะเบียนนิติบุคคล และหลักฐานการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน
     (1) หนังสือรับรองการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นนิติบุคคลไม่เกิน 1 เดือน
     (2) หลักฐานการชำระค่าจดทะเบียนบุคคลและค่าใช้จ่ายดำเนินการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน
     (3) ข้อมูลในงบกำไรขาดทุนย้อนหลัง 3 ปี หรือเท่าที่มีในกรณีที่เป็นนิติบุคคลตั้งใหม่
     (4)สำเนาหลักประกัน
     (5)สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว(กรณีต่างด้าว)
     (6)หนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนนิติบุคคล(ถ้ามี)

 

 

 

     ขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคลกับและหลักฐานการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน สภาวิชาชีพบัญชี

     (1) ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอจดทะเบียนนิติบุคคล ดาวน์โหลดสวบช.5   และหลักฐานการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน (สวบช 5.3)
     (2) แนบหลักฐานประกอบการจดทะเบียนนิติบุคคลและหลักฐานการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันกับสภาวิชาชีพบัญชี
     (3) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
         – เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
         – ไปรษณีย์
         – ระบบออนไลน์ (สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ)
 
3. การจดทะเบียนแก้ไขข้อมูลนิติบุคคล / เลิกการให้บริการการสอบบัญชี หรือการทำบัญชี /การเปลี่ยนแปลงประเภทของหลักประกัน
       ในกรณีนิติบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้จดทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพ บัญชีเป็นอย่างอื่น หรือเลิกกิจการ หรือนิติบุคคลเลิกกิจการ หรือเลิกการให้บริการการสอบบัญชีหรือการทำบัญชี จะต้องดำเนินการขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมรายการนั้นๆ ต่อสภาวิชาชีพบัญชี ดังนี้
     (1) ดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขภายใน 14 วัน นับแต่วันที่มีการแก้ไขข้อมูล โดยใช้แบบ ดาวน์โหลดสวบช.5.1
     (2) แนบหลักฐานการจดทะเบียนแก้ไข การเลิกกิจการ หรือเลิกการให้บริการการสอบบัญชีหรือการทำบัญชี กรมพัฒนา ธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
     (3) ชำระค่าจดทะเบียนแก้ไข (ครั้งละ) 500 บาท
     (4) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
          • เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
          • ไปรษณีย์
          • ระบบออนไลน์ (สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ) * ในกรณีนิติบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงประเภทของหลักประกัน จะต้องดำเนินการแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อสภาวิชาชีพบัญชี ดังนี้
     (1) ดำเนินการยื่นขอแจ้งเปลี่ยนแปลงประเภทของหลักประกันภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยใช้แบบ (สวบช. 5.4)
     (2) แนบหลักฐานแจ้งการเปลี่ยนแปลงประเภทของหลักฐาน ได้แก่
          (2.1)สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่เกิน 1 เดือน
          (2.2)สำเนาหลักประกัน
          (2.3) หนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนนิติบุคคล (ถ้ามี)
     (3) ชำระค่าใช้จ่ายดำเนินการแจ้งเปลี่ยนแปลงประเภทของหลักประกัน 200 บาท
     (4) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
          • เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
          • ไปรษณีย์
          • ระบบออนไลน์ (สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ)
4. สิทธิและหน้าที่ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี
      หน้าที่ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี
     (1) นิติบุคคลต้องจัดให้มีหลักประกันเพื่อประกันความรับผิดต่อบุคคลที่สาม ทั้งนี้ตามประเภท จำนวน หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดโดยกฎกระทรวง
     (2) ในกรณีที่นิติบุคคลประกอบกิจการให้บริการด้านการสอบบัญชี บุคคลซึ่งมีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลในการให้บริการการสอบบัญชีต้องเป็นผู้ ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
     (3) ในกรณีที่ผู้สอบบัญชีต้องรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม ให้นิติบุคคลซึ่งผู้สอบบัญชีนั้นสังกัดอยู่ร่วมรับผิดชอบด้วยอย่างลูกหนี้ ร่วม และในกรณีที่ยังไม่สามารถชำระค่าเสียหายได้ครบจำนวน ให้หุ้นส่วนหรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล หรือผู้แทนนิติบุคคล ต้องร่วมรับผิดจนครบจำนวน เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่า ตนมิได้มีส่วนรู้เห็น หรือยินยอมในการกระทำผิดที่ต้องรับผิดชอบ
     สิทธิพิเศษอื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด
    (1) ส่วนลด 10% ในการซื้อหนังสือสภาฯ ตลอดอายุบัตร ยกเว้นหนังสือที่ลดราคาแล้ว
    (2) ซื้อบัตรอบรม / สัมมนา ในราคาพิเศษตามอัตราและเวลา ที่กำหนดในเอกสารเผยแพร่การอบรม / สัมมนา โดยในแต่ละครั้งสามารถลดราคาในอัตราพิเศษจำนวน  2 ที่ ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีออกในนามนิติบุคคลนั้น
 
5. การต่ออายุทะเบียนนิติบุคคล และการแจ้งการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันประจำปี
      การต่ออายุทะเบียนนิติบุคคล ให้ยื่นขอต่ออายุทุก 3 ปี นับจากวันจดทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี โดยดำเนินการต่ออายุภายใน 3 เดือนก่อนใบทะเบียนหมดอายุ ดังนี้
         (1 ) ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ดาวน์โหลดสวบช.5.2
         (2) ชำระค่าจดทะเบียนต่ออายุทะเบียนนิติบุคคล 2,000 บาท
         (3) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
               – เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
               – ไปรษณีย์
               – ระบบออนไลน์ (สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ)
         การแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันประจำปี ให้ยื่นภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นรอบปีบัญชีทุกปี โดยดำเนินการ ดังนี้
         (1) ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ดาวน์โหลดสวบช.5.3
พร้อมเอกสาร ดังนี้
          (1.1) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่เกิน 1 เดือน
          (1.2) สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว(กรณีต่างด้าว)
          (1.3) สำเนาหลักประกัน
          (1.4) หนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนนิติบุคคล(ถ้ามี)
         (2) ชำระค่าใช้จ่ายดำเนินการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกัน 400 บาท
         (3) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
          – เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
          – ไปรษณีย์
          – ระบบออนไลน์ (สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ)

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>